Unboxing WARHAMMER 40000 : Recruit Edition กล่องเริ่มต้นสำหรับผู้เล่นใหม่(มาก)

 

ถ้าจะให้พูดไป การเริ่มต้นเล่นเกมแบบ Tabletop Wargame หรือ Miniature Wargame เกมกระดานในฉากเมืองจำลองใหญ่ๆ โมเดลหลายๆตัวดูวุ่นวาย สำหรับใครหลายๆคนอาจเป็นเรื่องที่โหดหินกัดกินหัวใจ ทั้งราคา ทั้งกฏที่ต้องเรียนรู้ จับต้นชนปลายไม่ถูกเสมอมา... แต่ไม่ใช่กับ WARHAMMER 40000 ในเวอร์ชั่นอัพเดทกฏปี 2020 หรือที่เราๆเรียกกันว่า edition ที่ 9 หรือ 9th edition (9e) นี้แน่นอนครับ

WARHAMMER 40000 Recruit Edition เป็น boxed game ราคาสบายกระเป๋าที่ออกวางจำหน่ายเมื่อปลายปี 2020 มันถูกวางทิศทางให้เป็นกล่องที่เหมาะกับผู้เล่นสองคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้เล่นหน้าใหม่ที่พอหารกันสองคนแล้ว ค่าใช้จ่ายก็เพียงแบงค์ร้อยไม่กี่ใบ แต่สิ่งที่ได้เมื่อเปรียบเทียบกับราคา product ที่ให้มาในกล่องเมื่อซื้อแยกนั้นเรียกว่าสุดคุ้ม!!! => กดเพื่อสั่งซื้อ

จากหน้ากล่องจะเห็นได้วา Recruit Edition จะเป็นการรบระหว่าง Space Marines และ Necrons ซึ่งเป็นมวยคู่เปิด 9th edition พร้อมคำโปรยสั้นๆง่ายๆว่า Starter Set ที่ดึงดูดให้ผู้เล่นใหม่ หรือผู้ที่สนใจ กำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นได้หยิบไปจ่ายเงินแบบไม่ต้องคิดมาก

ด้านหลังกล่องจะมีการเกริ่นนำเนื้อเรื่อง แสดงรายละเอียดต่างๆของสิ่งที่ให้มาในกล่อง สามารถดูจากในรูปได้เลย ซึ่งโมเดลทั้ง Space Marine และ Necron สองตัวนี้จะเป็นขนาด 1:1 ของโมเดลเมื่อประกอบเสร็จแล้ว

เนื่องจาก Recruit Edition ถูกออกแบบมาในลักษณะของ boxed game หรือเป็น Warhammer ที่สามารถเล่นโดยจบในกล่องเดียว เหมือนกับบอร์ดเกม หลังกล่องจึงสรุปมาให้เลยว่ากล่องนี้ใช้เวลาเล่นประมาณ 30 - 60 นาทีต่อภารกิจ ซึ่งภารกิจนี้จะให้มาในหนังสือเลย เล่นตามเพื่อทำความเข้าใจกฏของเกมได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ซึ่งจะพูดถึงในส่วนต่อไปนะครับ 

อายุที่เหมาะสมก็ถูกแนะนำให้เป็นผู้เล่นอายุ 12 ปีขึ้นไป เนื่องด้วยความซับซ้อนเล็กน้อยของภารกิจที่ให้มา โดยเฉพาะโมเดลมีชิ้นส่วนเล็กๆเต็มไปหมด อีกทั้งยังต้องใช้คีมหรือมีดในการกระกอบ อาจจะเกิดอันตรายกับน้องตัวเล็กๆได้นั่นเอง

ทีนี้การที่ระบุว่าเหมาะกับผู้เลนตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ตรงนี้ส่วนตัวมองว่า 4 คนก็สามารถเล่นได้นะครับ แบ่งยูนิตกันบังคับคนละยูนิตไป แบ่งฝั่งละสองคน คนนึงบังคับหัวหน้า คนนึงบังคับลูกน้อง หรีือสามารถนำ faction หรือโมเดลจากฝ่ายอื่นๆมาแจมได้ ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด

การประกอบโมเดลในกล่องสามารถใช้คีมตัออกจากแผงแล้วประกบได้เลย โดยที่ไมต้องใช้กาว เนื่องจากมีการออกแบบชิ้นส่วนให้เชื่อมกันด้วยเดือยและเบ้า คล้าย gunpla ของง BANDAI เลย ใครเคยต่อ plastic model โดยเฉพาะ gunpla มาก่อนบอกเลยว่าสบายมาก

มาดูกันชัดๆครับว่าในกล่องให้อะไรมาบ้าง

- หนังสือคู่มือการเล่น หนา 64 หน้า

- terrain หรือสิ่งของประกอบฉาก 1 ชิ้น

- Reference Sheet หรือ Data Sheet ที่เป็น Stat ของทั้งสองฝ่าย ฝ่ายละ  1 แผ่น

- Play mat เป็นสนามแบบกระดาษสีสวยงาม

- ลูกเต๋า 6 หน้า หรือที่ในเกมจะเรียกว่า d6 จำนวน 10 ลูก

- ไม้บรรทัด 2 อัน

- และ transfer sheet ของฝ่าย Space Marines 1 แผ่น หรือก็คือ decal รูปลอกน้ำนั่นเอง

ทีนี้มาดูโมเดลที่ให้มากันบ้างครับ

ฝ่าย Space Marines

- Primaris Lieutenant 1 ตัว เป็น HQ หรือผู้นำหน่วย

- Assault Intercessors จำนวน 5 ตัว

ฝ่าย Necrons

- Royal Warden 1 ตัว เป็น HQ

- Neccron Warriors 10 ตัว เลือกติดอาวุธได้ 2 แบบ ส่วนจะติดแบบไหน เดี๋ยวอธิบายให้ฟังครับ

- Canoptek Scarab Swarms 3 ตัว

อธิบายครบจบทั้งหน้ากล่องหลังกล่องแล้ว มาเปิดกล่องกันเลย!!!!!

เริ่มเปิดจากก้อนกล่องมา จะเห็นว่ามีกล่องอีกใบข้างใน แถมเป็นกล่องที่มีลวดวายสวยงามซะด้วย

ซึ่งกล่องนี้ก็จะกลายเป็น terrain ประกอบฉากของผู้เล่นนั่นเอง

ว่าแต่ของทั้งหลายทั้งแหล่ที่อธิบายเมื่อกี้หายไปไหนนะ- -

เจอแล้ววว เมื่อพลิกกล่องกลับมาอีกด้านจะพบสิ่งของต่างๆที่ถูกจัดเรียงไว้เป็นอย่างดี ครบถ้วนสมบูรณ์แน่ๆแล้วแบบนี้ เห็นก็ชื่นใจ นึกว่าหาย hahaha

เดี๋ยวลองหยิบของออกมาดูทีละชิ้นกันครับ

ลูกเต๋า 6 หน้าทั้ง 10 ลูกถูกบรรจุอยู่ในซองพลาสติก จับดูจะรู้สึกได้ถึงน้ำหนักที่เหมาะสม ถือว่าเป็นลูกเต๋าเกรดดี ไม่ก๊องแก๊งนะ

ฐานของโมเดลทั้งหมด 20 ชิ้น แยกออกเป็นขนาด 40 มม. 4 ชิ้น สำหรับ Lieutenant และ Canoptek Scarab Swarm ส่วนที่เหลือจะเป็นขนาด 32 มม.

ทีนี้มาดูโมเดลกันบ้างครับ สำหรับกล่อง Recruit Edition จะให้โมเดลมา 3 แผง แบ่งได้ตามนี้ครับ

แผงที่ 1 จะเป็น HQ หรือผู้นำหน่วยของทั้งสองฝ่าย ส่วนตัวผมชอบ Royal Warden ตัวนี้มากเป็นพิเศษ เพราะการออกแบบแยกชิ้นส่วนทำมาได้น่าสนใจมากๆ อีกทั้งเมื่อประกอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทุกชิ้นส่วนยังอยู่สอดรับกันเป็นอย่างดี ไม่มีพาร์ทส่วนไหนที่ดูประดักประเดิดเลย ส่่วน Lieutenant ก็ได้มาตรฐานของ Space Marines ยุคใหม่ โล่ห์ Stormshield ที่เชื่อมกับแขนซ้ายก็แน่นหนาดีแม้ไม่ติดกาว ที่จะต้องระวังก็ตรงดาบ Power Sword ที่เอาเข้าจริงอาจจะต้องหยอดกาวสักหน่อยป้องกันการหลุดหาย กับ Halo แหลมๆกลมๆบน backpack ที่เวลาประกอบต้องระวังอย่าไปกด ไม่งั้นได้มีเลือดตกยางออกแน่ๆ พาร์ทเองก็จะงอหรือหักผิดรูปไปอีก เสียใจแย่เลยยย

แผงเดิม ด้านหลังงามๆ

พาร์ทศีรษะของพวก Necrons จะเล็กมากๆ ระวังหล่นหายนะ

โล่ห์ Stormshield สวยมาาากกก

มาต่อกันที่แผงของ Assault Space Marines เลยครับ

พาร์ทของ Assault Space Marines ทั้ง 5 นายที่ให้มาในกล่อนี้จะเป็นแบบ ETB หรือ Easy-to-Build ประกอบแบบ snap-fit ได้เลย ไม่ต้องใช้กาว แต่จะถูกฟิกซ์ท่าและอาวุธไว้แทบทั้งหมด จะมีก็แต่ Sergeant หรือหัวหน้าหมู่ที่มีพาร์ทมาให้เลือกเป็นแบบใส่หมวกหรือถอดหมวก และเลือกอาวุธได้ระหว่าง Heavy Bolt Pistol หรือ Plasma Pistal and Chainsword (ถ้าจะเล่น Mission ในเล่ม ในคู่มือหน้า 36 แนะนำว่าให้ติดเป็น Heavy Bolt Pistol นะ) เกราะหัวไหล่ซ้ายและไหล่ขวาเรียบทุกตัว ทำให้ใช้ได้กับทุก Chapter

สำหรับเพื่อนๆที่เพิ่งจะก้าวเข้าสู่โลกของ Warhammer 40k ลองประกอบจาก 5 ตัวนี้ก็ได้ครับ พาร์ทต่อหนึ่งตัวไม่เยอะ ไม่ซับซ้อน ขนาดกำลังพอดี หยิบจับยังถนัดมืออยู่ สังเกตเห็น mold line ที่ต้องขัดออกได้ชัดเจน ถือว่าเป็นหนึ่งในมิเนเจอร์มาตรฐานที่อยากแนะนำให้ผ่านมือซักห้าตัวสิบตัวก่อนไปประกอบอย่างอื่นครับ

แผง Assault ด้านหลัง

จ่าอ้าปากตะโกนว่าอะไร ไปเดากันเอง

แผงสุดท้ายแล้วกับ Necrons Warriors และ Canoptek Scarab Swarms

Necron Warriors ทั้ง 10 ตัวในแผงนี้จะเป็นการรีโมเดลจากโมเดลเดิมที่ใช้กันมานานร่วมยี่สิบปี ตามพาร์ทต่างๆถูกออกแบบให้มีร่องรอยการสึกกร่อน การกระเทาะกระทบกระแทกต่างๆ ให้ความรู้สึกแบบของเก่าแบบเก๊าเก่า เพราะพวกเขาเพิ่งจะตื่นจากการหลับไหลมานานหลายล้านปีพร้อมกับ Szarekh the Silent King ผู้นำสูงสุดของพวกเขา ต่างจากโมเดลชุดเดิมที่ไร้ริ้วรอยใดๆ ซึ่งนอกจากจะประกอบได้แบบ snap-fit แล้ว ที่สำคัญคือการรีโมเดลครั้งนี้ Necron Warriors ยังเป็นโมเดลแบบ Multi-Part ที่สามารถเปลี่ยนอาวุธได้ถึง 2 แบบ และหัวถึง 20 แบบ!!! โดยเลือกติดได้ตัวละ 2 แบบ ส่วนอาวุธที่ให้มาจะเป็นปืนลำแสงยิงไกล Gauss Flayer และในระยะที่ใกล้เข้ามาอย่าง Gauss Reaper ที่แดเมจสูงขึ้น

การที่โมเดลสามารถเลือกติดอาวุธได้หลากหลาย ทำให้ผู้เล่นสามารถปรับกลยุทธในการเล่นได้อย่างหลากหลายตามอาวุธที่ติดไปกับโมเดล ซึ่งในคู่มือในหน้า 37 จะแนะนำว่าให้ติดเป็น Gauss Flayer ทั้ง 10 ตัว

นอกจากนี้ในแผงยังให้ Canoptek Scarab Swarms มาให้อีก 1 ยูนิต จำนวน 3 ตัว(ฝูง?)ด้วย น้องอาจจะดูก๊องแก๊งก็จริง แต่ในเกมใหญ่บอกเลยว่ากวนใจฝ่ายตรงข้ามสุดๆบอกเลย:3

ด้วงบินแล้วไง ข้องใจหรอคะ???

จบในส่วนของโมเดลไปแล้ว ต่อมาเรามาดูอุปกรณ์การเล่นกันบ้างครับ

ในซองนี้จะเป็น play mat หรือสนามที่ใช้ในการปูเล่น ขนาด 22*30 นิ้ว วัสดุเป็นการดาษอาร์ทมันค่อนข้างหนา จัดพิมพ์อย่างสวยงามละเอียดละออ สามารถใช้งานได้ทั้งสองหน้า แต่ด้วยความที่มันพับมา ถ้าจะใช้จริงจังอาจจะต้องไปหาวิธีรีดหรืออัดกรอบซักหน่อยนะครับ

คลี่ออกมาก็จะได้ play mat กำลังพอดีๆ วางบนโต๊ะได้หลายขนาด

อีกด้านจะเป็นอีกภาพซึ่งด้านนี้มี marker ให้เล่นตาม mission ในหนังสือ

เข้ามาสู่ส่วนสำคัญของกล่องนี้กันครับ หนังสือ Recruit Manual และอุปกรณ์ต่างๆนั่นเองงง

ตัวหนังสือถูกแพ็คมาอย่างดีในพลาสติก wrap ซึ่งต้องขอชม Games Workshop หน่อยครับ เพราะที่ผ่านมาผู้เล่นเก่าๆจะทราบดีครับว่าถ้ามีหนังสือมาในกล่องแบบนี้ แทบจะครึ่งต่อครึ่งที่หนังสือจะเสียหายทั้งจากการขนส่งและการขูดขีด ถลอก เป็นรอยกดทับจากโมเดลหรือสิ่งต่างๆในกล่อง ส่วนกล่องที่ผมได้มานั้นแทบจะ near mint ไร้รอยขีดข่วน มุมปกคมกริบ ถูกใจมากครับ ใครชอบเก็บหนังสือนี่ยิ้มแน่นอน งั้นมาแกะดูข้างในกัน

แกะแบบบาบาเรี่ยนนน!!!

เมื่อแกะพลาสติกออกมาแล้ว ก่อนอื่นเลยมีสิ่งที่แพ็คแนบมาด้านหลังของหนังสือด้วย เป็น data sheet ของโมเดลทุกยูนิตในกล่อง แบ่งเป็นฝายละแผ่นแยกกัน สะดวกในการหยิบดูระหว่างเล่น ใต้รูปของแต่ละยูนิตยังมีประวัติล็กๆน้อยๆให้อ่านเพิ่มอรรถรสในการเล่นอีกต่างหาก

กลับมาเรื่องหนังสือกันครับ Recruit Manual จะบอกทุกอยางในการเริ่มต้นการเก็บสะสม ประกอบ ทำสี และนำไปเล่นในสนามรบจำลอง โดยค่อยๆแนะนำกฏการเล่นอย่างง่ายๆในการเล่นผ่าน Mission ทั้งสี่ รวมไปถึงช่องทางการจะไปต่อในจักรวาล Warhammer 40000 ด้วย Space Marines และ Necrons เรียกว่าเป็นหนึ่งในหนังสืออีกเล่มที่ผู้เล่นใหม่น่าจะหามาศึกษาครับ(ส่วนอีกเล่มก็คือ Getting Started with Warhammer 40,000 อีกเล่ม => กดเพื่อสั่งซื้อ )

สารบัญอัดแนนไปด้วยเนื้อหา อ่านได้เป็นวันๆ

ใช่ครับ เล่นจริงก็ประมาณนี้เลย

เนื้อเรื่องหรือ setting ต่างๆก็มีให้อ่านนะ แถมเป็นเหตุการณ์ปัจจุบันในเนื้อเรื่องหลักเสียด้วย

บอกขั้นตอนการประกอบระบายสีอย่างละเอียด แนะนำอุปกรณ์ที่เหมาะสม

ใบประกอบต่างๆอยู่ในหนังสือแล้ว พร้อมคำแนะนำทีละขั้นตอน

มีเงินซื้อโมเดลแล้วอย่าลืมแบ่งเงินมาซื้อคีมด้วยนะครับ ไม่เอาที่ตัดเล็บตัดนะขอร้อง>w<

แนะนำวิธีการเตรียมตัว อุปกรณ์ที่จำเป็นต่างๆอย่างละเอียด

ภารกิจที่ให้มาในเล่มจะค่อยๆสอนกฏพื้นฐานไปจนสามารถเล่นได้คล่องในภารกิจสุดท้าย

หน้าสุดท้ายกับการป้ายยาเยอะแยะเต็มไปหมด=[]=

สรุปแล้ว Warhammer 40000 Reruit Edition ถือเป็นกล่องที่เหมาะมากๆสำหรับการเริ่มต้นเล่น Warhammer 40000 ในยุคปัจจุบัน ของที่ให้มาในกล่องคุ้มมากในราคาจับต้องง่ายสุดๆ เนื้อหาในหนังสือครอบคลุมทุกส่วนสำหรับการเป็น primer หรือการปูความพร้อมให้สามารถไปต่อได้ทุกๆสายทั้งสายสะสม สายประกอบทำสี และสายเล่นเกม ซื้อเถอะครับถ้าคุณอยากเข้าสู่จักรวาล Grim-Dark Fantasy ที่ดีที่สุดในโลก!!!

สั่งซื้อได้ที่ Shopee แถมคู่มือภาษาไทย => กดจ้า

สั่งซื้อโดยตรงจากหน้าร้าน => กดจ้า

Warhammer Underworlds Warband Focus: The Wurmspat

เรียบเรียงจาก https://www.warhammer-community.com/2020/01/30/warband-focus-the-wurmspatgw-homepage-post-4/

ช่างเป็นเวลาเนิ่นนานที่แฟรนส์ไช์ Underworlds ห่างหายไปจากความรักของ Grandfather Nurgle ... แต่ไม่อีกต่อไป บัดนี้ถึงเวลาที่สุดยอดเกมโมเดลต่อสู้จะถูกโอบกอดด้วยสองมือแห่งเทพเจ้าโรคระบาด... The Wurmspat มาถึงแล้ว! ดังนั้นวันนี้เราจะมาดูกันว่าพวก Rotbringer ตัวเน่าเฟะพวกนี้จะนำเสนอรูปแบบเกมแบบไหนให้คุณ! บอกก่อนเลยว่าแตกต่างจากทุก warband อย่างแน่นอน!

Who Are The Wurmspat?

The Wurmspat มาถึง Beastgrave โดยโคตรหนอน wyrmaggot ขนาดยักษ์ พวกเขาเป็นกลุ่มของ Nurgle Rotbringer ที่พยายามจะแก้ไขคำสาป Katophrane Curse ซึ่งพวกเขามองว่าคำสาปอมตะนี้เป็นดั่งปฏิปักษ์ต่อการเวียนว่ายตายเกิดไม่มีที่สิ้นสุดแห่งองค์เทพ Nurgle นับเป็นโชคร้ายเหลือคณาแด่เหล่าผู้อาศัยใน Beastgrave เมื่อพวกเขามาถึงและแน่วแน่กับการแพร่เชื้อรายให้ได้มากที่สุด

The Fighter

Ghulgoch the Butcher ร่างใหญ่มหึมา แข็งแกร่ง และร่างที่ขาดรุ่งริ่งในแบบที่ Putrid Blightkings ควรจะเป็น เช่นกันกับ The Wurmspat ตนอื่นๆที่จะลดความเสียหายจากการโจมตีที่ได้รับลง 1 หน่วยต่อ Block ที่ทอยได้ขณะทอยลูกเต๋าป้องกัน ให้ความคุ้มครองขึ้นไปอีกขั้นเมื่อต้องเจอกับการโจมตีที่ติด critical หรือการโจมตีที่มี Cleave และถึงแม้จะยังไม่ inspire เขาก็ยังนักสู้ที่มีประสิทธิภาพสูงโดยเฉพาะการโจมตีอย่างป่าเถื่อนด้วยลูกเต๋าถึงสามลูก!

Sepsimus, Plaguesworn เป็นกระจกที่สะท้อนอีกด้านของ Ghulgoch ด้วยการโจมตีจากระยะไกล ส่งผลให้เขาเป็นภัยคุกคามแสนอันตรายทันทีหากศัตรูคิดจาดหนีจากอ้อมกอดอันอบอุ่นแห่งเทพ Nurgle และยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเขา Inspired พร้อมกับท่าโจมตี Whirling Spear ที่ใช้จัดการศัตรูครั้งละฝูง!

Fecula Flyblown ผู้นำของ The Wurmspat เขามาการโจมตีด้วยคาถาที่ยอดเยี่ยมอย่าง Stream of Corruption ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งหากได้เริ่มใช้ตั้งแต่ต้นเกมเพื่อนวดศัตรูที่กำลังพุ่งเข้ามาให้อ่อนแอลง อีกทั้งยังเป็นการเร่งให้เกิดการ Inspired เร็วขึ้นอีกด้วย

Playstyle

ดังเช่นที่สะท้อนในเกมใหญ่อย่าง Warhammer Age of Sigmar เมื่อพวก Putrid Blightkings นั้นแสนเชื่องช้าแต่เดินเกมได้อย่างยอดเยี่ยมในระยะประชิดโดยเฉพาะเมื่อสามารถดึงเกมให้ยืดเยื้อได้ ซึ่ง The Wurmspat ก็เป็นเช่นนั้น ซึ่งแม้จะดูต้วมเตี้ยมไปนิด แต่ความสามารถในการอยู่รอดและการลดทอนหรือต้านทานการโจมตีนั้นแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเก่งมากๆตั้งแต่ต้นเกมในฐานะ warband สายโจมตีแบบบ้าเลือด!!!

Top Gambits

The Wurmspat มีทริกที่ทรงพลังมากๆและค่อนข้างจะแตกต่างจาก warband อื่นๆใน Warhammer Underworld อยู่หลายอย่าง ด้วยการ์ด Cycle ซึ่งเป็นแมคคานิกใหม่ของเกมที่ออกแบบมาเพื่อแสดงให้เห็นภาพพลังอำนาจของ Nurgle ที่กำลังคืบคลานเข้ามา ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ploy card ที่มีคีย์เวิร์ด Cycle จะยังแสดงผลอยู่จนกว่าคุณจะใช้ ploy card ใบอื่นที่มี Cycle เช่นเดียวกันมาแทนที่ใบเดิม (หรือที่บนการ์ดใช้คำว่า persists) นั่นหมายถึงแต่ละใบจะสามารถส่งผลข้าม action round ได้!!! ทีนี้คุณก็อาจจะใช้การ์ด Unnatural Vitality เพื่อลดระยะห่างระหว่างคุณกับศัตรูในช่วงต้นเกม

ในช่วงกลางเกม เมื่อคุณมั่นใจว่าคุณไล่ต้อนศัตรูจนพวกมันจนมุมได้แล้ว ให้เปลี่ยนการ์ดเป็น Nauseous Revulsion ทีนี้ก็เหมือนกับคุณได้รับพลังป้องกันระดับสุดยอดแล้วเมื่อศัตรูที่อยู่ติดคุณต้องถูกลดลูกเต๋าโจมตีไปหนึ่งลูกเต็มๆ 

การใช้ Cycle ให้ถูกที่ถูกเวลานี่เองจะเป็นกุญแจสู่ชัยชนะอย่างเด็ดขาดของ The Wurmspat

Top Upgrades

ในฐานะ warband จำพวกเดินหน้าชน การ์ด upgrade ต่างๆนี่แหละคือวิธีเล่นหลักๆของ The Wurmspat อีกทั้งในกล่องก็ยังมีการ์ดเจ๋งๆที่เป็นการ์ดเฉพาะของ warband นี้อยู่หลายใบให้คุณใช้ด้วย!!! การ์ด Unstoppable Tread เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเมื่อใช้กับ Sepsimus ทำให้เขาใช้หอกผลักศัตรูออกไปในตำแหน่งที่ต้องการในขณะที่ย่างสามขุมเข้าหาผู้โชคร้านคนนั้นอย่างต่อเนื่อง

การ์ด Living Plague เป็นตัวเลือกที่ดีมากๆในการเพิ่มความเสียหายโดยรวมของ warband ต่อทีมของศัตรูที่พยายามจัดการคุณด้วยการตอดเล็กตอดน้อย พร้อมกันกับที่การ์ด Retching ที่ปกป้องคุณจากความเสียหายที่มาจากการ์ดจำพวก backlash

Top Objectives

The Wurmspat มีการ์ด objective ที่หลากหลายทำให้รูปแบบการเล่นมีความยืดหยุ่นและผสมผสานสไตล์การเล่นต่างๆได้ง่าย ที่เด่นๆเลยคือการ์ดที่ให้ glory ค่อนข้างมากอย่างการ์ด Sacred Tri-Lobe ที่สามารถทำได้ง่ายโดยเฉพาะเมื่อต้องปะทะกับศัตรูที่มักจะทิ้งระยะห่างจากเราเพื่อหลีกเลี่ยงแดเมจ ส่วนการ์ด Chosen Warriors ก็จะปรับรูปแบบการเล่นให้เกมของคุณดุดันเดินหน้าฆ่ามันมากขึ้น แต่ไม่ว่าคุณจะจัดเด็คแบบใดก็ตาม การ์ด Cycle of Decay ใบนี้จะเป็นการ์ดที่เราแนะนำว่าควรมีติดเด็คไว้เสมอ ใช้ Cycle เพื่อชิงความได้เปรียบแถมได้ glory อีกต่อแบบนี้ดีสุดๆ!!!

The Wurmspat วางจำหน่ายแล้วเรียบร้อยครับ ใครที่อยากได้แล้วก็สามารถสั่งซื้อหรือสอบถามได้ที่ www.shopee.co.th/outcast_gaming พร้อมดีลพิเศษเฉพาะคุณทุกวันได้เลย!!!

Warhammer Underworlds Warband Focus: Hrothgorn’s Mantrappers

เรียบเรียงจาก https://www.warhammer-community.com/2020/01/28/warband-focus-hrothgorns-mantrappersgw-homepage-post-4/

ในที่สุดก็มีเผ่าพันธุ์ Ogor Mawtribes ที่ได้ก้าวเข้าสู่เรื่องราวของ Warhammer Underworld แล้ว! Icebrow Hunter Hrothgorn Mantrapper และเหล่าสหายนักล่าของเขาพร้อมแล้วที่จะให้ทุกคนได้เป็นเจ้าของ ดังนั้นในวันนี้เราจะไปดูกันว่า warband นี้จะมีจุดเด่นวิธีการเล่นอย่างไร รวมไปถึงการ์ดที่น่าใช้ที่ให้มาในกล่องมีใบไหนที่น่าใช้กันบ้าง!

Who Are Hrothgorn's Mantrapper

พวกมันถูกล่อลวงมาด้วยกลิ่นอายของเหยื่ออันดาษดื่น Hrothgorn's Mantrapper มาถึง Beastgrave ด้วยอุบัติเหตุหลังจากแผ่ขยายอาณาเขตมาทาง Alfrostun ซึ่งขณะนี้จอมพรานและผู้ติดตามที่ดูไม่น่าไว้ใจของเขากำลังตระเวนหาทางออกจากหุบเขาทมิฬแห่งนี้ไปพร้อมๆกับ... ออกล่ามื้อของว่างเป็นๆ!

The Fighter

Hrothgorn Mantrapper เป็นหัวหน้าของ warband นี้ เขาเป็นสุดยอดนักสู้ในหมู่นักสู้ ว่ากันด้วยเรื่อง stat เขาแทบจะแข็งแกร่งพอๆกับ Mollog the Mighty (Mollog's Mob จาก season 2) แต่จะต่างกันอย่างชัดเจนตรงที่ Hrothgorn Mantrapper มีการโจมตีระยะไกลที่ยอดเยี่ยมด้วย Trap Launcher และด้วยความอเนกประสงค์สุดๆจึงทำให้ Hrothgorn นั้นสามารถสังหารศัตรูในระยะประชิดได้ดีพอๆกับศัตรูที่อยู่ไกลออกไป นอกจากนั้นเขายังทำให้ศัตรูทั้งหมดในเกมมีคีย์เวิร์ด Quarry ผลคือคุณสามารถใช้ทั้ง gambit และ upgrade ต่างๆที่สร้างความได้เปรียบอย่างยิ่งยวดในเกมของคุณ

Thrafnir นั้นทั้งรวดเร็วและมีความคล่องตัวสูง คุณจะเห็นความสามารถตรงนี้ได้ชัดเจนจากการเลือกศัตรูที่อยู่ไกลๆมาสักตัวแล้วให้เจ้าแมวเหมียวตัวนี้กระโจนทยานไปงับหัวผู้ที่ขวางทางมัน ทั้งใช้งานง่าย ว่องไว และเชื่อใจได้ เหมาะจะใช้เป็น activation สุดท้ายใน round นั้นๆ คุณจะจัดการศัตรูได้อย่างน้อยหนึ่งตัวแน่ๆ แค่อย่าลืมใช้ Move ที่มากมายนั้นรักษาระยะห่างให้ดีก็พอ

ในขั้นแรกเมื่อดูจาก stat ต่างๆแล้ว Bushwakka นั้นช่างจืดชืด แต่ fighter คนนี้ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้เข้าไปโจมตีศัตรูตรงๆแน่ๆ เพราะแท้จริงแล้วเจ้านี่เป็นนักวางกับดักชั้นเลิศ เพราะในตอนท้ายของทุกๆ activation คุณจะมีโอกาสที่จะวางกับดัก mantrap ได้ โดยหาก fighter ผู้โชคร้ายอื่นๆมาหยุดบน hex ที่มีกับดักนี้จะได้รับความเสียหาย 2 Damage ทันที เหมาะอย่างยิ่งที่จะใช้ร่วมกับ Trap Launcher ของ Hrothgorn เพื่อสร้างคอมโบสุดสมบูรณ์แบบ

Quiv ทำให้การโจมตีศัตรูโดย Trap Launcher ของ Hrorthgorn แม่นยำมากขึ้น เพราะฉะนั้นเขาทั้งสองควรจะอยู่ใกล้ชิดกันเสมอ(และควรจะปกป้องให้เจ้าตัวเล็กนี่ปลอดภัยด้วย!)

อาจจะกล่าวได้ว่า Luggit และ Thwak เป็น gnoblars สายต่อสู้ระยะประชิด(นี่พูดแบบใจกว้างนะ) สิ่งที่ทั้งคู่ควรจะทำที่สุดก็คือสังหารศัตรูที่อ่อนแอหรือเลือดเหลือน้อยมากๆด้วยการดันศัตรูเข้าไปยังกับดักของ Bushwakka หรือ lethal hex อื่นๆด้วย reaction ที่พวกเขามีติดตัว

Play Style

Hrothgorn's Mantrapper เป็นอีกหนึ่ง warband ที่น่าสนใจมากๆ ด้วยความดุดัน ใส่ใจ fighter หลักๆแค่คนเดียวแต่สามารถเดินเกมได้ดีทั้งระยะประชิดและระยะไกลไม่แพ้กัน ในช่วงต้นเกมคุณจะต้องหวังพึ่ง lethal hex และกับดักของ Bushwakka เพื่อชิงความได้เปรียบ ตอดเลือดของศัตรูสักตัวแล้วส่ง Hrothgron เข้าไปปลิดชีพมันในจังหวะที่เหมาะสมเพื่อให้ทั้ง warband ของคุณ Inspire ที่เหลือคือการจับจังหวะในแต่ละ activate ให้ถูกต้อง แล้วชัยชนะจะเป็นของคุณอย่างแน่นอน!

Top Gambits

Hrothgorn's Mantrapper เชี่ยวชาญการใช้พื้นที่ที่พวกตนกำลังต่อสู้อยู่ เช่นเดียวกับความสามารถในการผลักหรือดึงศัตรูให้ไปอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ มีการ์ดแนว gambit อยู่สองสามใบที่จะช่วยให้พวกเขาใช้ประโยชน์จากสนามได้อย่างเต็มที่ อย่างเช่นการ์ด More Traps ที่ทำให้คุณสามารถพลิก objective token ให้กลายเป็น lethal token ได้ทันที ในขณะที่การ์ด Frozen Earth จะถึงขั้นที่ลบ objective token หรือ feature token ออกจากเกมไปได้เลย(=[]=!!!) อย่างไรเสีย หากจะใช้ gambit พวกนี้คุณจำเป็นที่จะต้องรักษาชีวิตของ Hrothgorn ให้อยู่รอดปลอดภัยจนจบเกม นี่จึงทำให้ Quick Snack นั้นเป็นการ์ดที่ยอดเยี่ยมอีกหนึ่งใบ

Top Upgrades

หากคุณเลือกที่จะเล่น Hrothgorn's Mantrapper สิ่งที่ควรทำคือเสริมความแข็งแกร่งให้กับ Hrothgorn ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ช่างดีเหลือเกินที่มีตัวเลือกเจ๋งๆมากมายพร้อมให้คุณสามารถเลือกใช้ได้จากการ์ดที่ให้มาในกล่อง ด้วยการ์ด Famed Hunter จะช่วยให้คุณ re-roll ลูกเต๋า attack dice ของ Hrothgorn ในช็อทสำคัญได้หนึ่งลูก หรือจะเป็นการ์ด Living Avalanche ที่ทำให้ hunting knife ของคุณกลายเป็นโคตรมีด 4 damage และการ์ด Veteran Hunter ที่ช่วยให้คุณขุด power deck ขึ้นมือได้อย่างรวดเร็ว

Top Objectives

อย่างที่ทุกคนคาดเดาได้ พื้นเพของ Hrothgorn's Mantrapper นั้นเป็น warband ที่เน้นการต่อสู้ฆ่าฟัน พร้อมกับการ์ดที่จะให้ glory แก่คุณเมื่อคุณฆ่าศัตรูได้ การ์ด Hunter's Feast เป็นการ์ดที่ค่อนข้างพบได้น้อยกับการที่ให้ 2 glory หากคุณจัดการศัตรูได้สองตัวใน phase เดียวกัน ส่วนการ์ด Extra Crunchy จะให้ glory คุณเป็นกอบเป็นกำหากคุณจัดการศัตรูที่อัพเกรดมาอย่างหนาได้ สุดท้ายกับจังหวะเซอร์ไพรซ์อย่างการ์ด Surprising Competence ที่จะให้ glory เพิ่มต่างหากเมื่อพวกบริวาร gnoblar ตัวเล็กจิ๋วสามารถคว่ำศัตรูลงได้!

ถ้าคุณชอบ warband ที่เล่นง่ายแต่มีประสิทธิภาพสูง พลิกแพลงน้อยแต่ได้ผลเสมอ หรือชอบทั้งความดุดันของ Ogor และความวายป่วงจาก Gnoblar อย่าได้พลาดการเป็นเจ้าของ Hrothgorn's Mantrapper นะครับ สามารถสั่งซื้อหรือสอบถามได้ตามลิ้งค์ด้านล่างพร้อมดีลพิเศษเฉพาะคุณทุกวันได้เลย!!!

=> กล่องหลัก Warhammer Underworlds: Beastgrave
=> กล่อง Hrothgorn's Mantrapper